Last updated: 30 ก.ย. 2565 | 537 จำนวนผู้เข้าชม |
"มะรุม" เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ปลูกไว้ในบริเวณบ้านของไทยเรามาแต่โบราณ ต้นมะรุมพบได้ทุกภาคของประเทศไทย
มะรุม (Moringa oleifira syn. M. ptreygosperma Gaertn.) จัดเป็นพืชวงศ์ Moringaceae เป็นพืชท้องถิ่นของประเทศอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ และแอฟกานิสถาน
ในตำรับยาไทย ได้กล่าวไว้ถึงสรรพคุณทางยาของมะรุมไว้ ดังนี้
เปลือกมะรุม ใช้ขับลมในลำไส้ ทำให้ผายและเรอ
รากมะรุม ใช้แก้บวม แก้ลมเข้าข้อ บำรุงธาตุไฟ
ฝักมะรุม ใช้ถอนพิษไข้ ดับพิษร้อน แก้ขัดเบา
ใบ ใช้พอกรักษาบาดแผลแก้อักเสบ ใช้ฝักแก้ไข
ดอก ใช้ขับปัสสวะบำรุงกำลัง
เมล็ด ใช้แก้ปวดตามข้อ
"มะรุม" มีฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่น่าสนใจ เช่น ลดความดัน ลดไขมันในเส้นเลือด แก้ปวดเกร็งในช่องท้อง รักษาแผลในทางเดินอาหาร ป้องกันตับ ต้านแบคทีเรียและรา ต้นเนื้องอก ต้านมะเร็ง เป็นต้น
ในอินเดีย มะรุมได้รับการขนานนามว่า Medicinal plants of india
ส่วนประกอบในน้ำมันมะรุม /Composition of Moringa oil
จากตาราง จะพบว่า น้ำมันมะรุมมี Oleic acid (omega9) สูงถึง 74.4% เทียบเท่ากับน้ำมันมะกอก จึงมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นเหมือนน้ำมันมะกอก
มีรายงานว่าน้ำมันจากเมล็ดมะรุม ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความสวยงามตั้งแต่ 1400 ปี ก่อนคริสตกาล เช่น ใช้ดลดริ้วรอย โดยการใช้ยางสน น้ำมันมะรุม และหญ้าไซปรัส มาหมักรวมกัน แล้วใช้บำรุงผิว
น้ำมันมะรุมนี้เหมาะต่อการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเสริมสวย ทำเครื่องสำอาง ใช้ในการบำรุงผิว บำรุงผม นอกจากนั้นยังมีสารฆ่าเชื้อและสมานแผล มีสรรพคุณในการแก้ผื่นคัน แมลงกัดต่อย และแผลถลอก
นอกจากนั้นยังมีไวตามิน เอ และ ซี ที่มีประโยชน์ในด้านเสริมสวย ในขณะเดียวกัน สามารถนำไปปรุงอาหารเช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก
มีคุณสมบัติโดดเด่นดังนี้
เห็นสรรพคุณมากมายแบบนี้แล้ว ลองสัมผัสดูรึยังคะ เดี่ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง